top of page

About Project

ดนตรีทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากคนเล่นสู่คนฟังมาเนิ่นนานหลายยุคสมัย หลายครั้งที่เรื่องราวถูกถ่ายทอดออกมาผ่านคำร้องที่สละสลวยและกินใจ และอีกหลายครั้งที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านท่วงทำนองที่ไพเราะ คอยปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ฟังให้คล้อยตามไปกับดนตรีเหล่านั้น 

เรื่องราวที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้เสียงที่ไพเราะเหล่านั้นมาจากไหน ความนุ่มนวนอ่อนหวานหรือความเกรี้ยวกราดที่ดังกึกก้องสะท้อนอยู่ในใจของคนฟังเหล่านั้นมาจากอะไร ดนตรีต้องการที่จะสะท้อนให้ผู้ฟังเห็นถึงอะไร ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของโปรเจค "ดนตรีเรื่องของคน"

เรื่องของคนที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านเพลงทั้ง 3 เพลง จะถูกเล่าออกมาในเรื่องราวและแง่มุมที่แตกต่างออกมาเป็น 3 ตอนได้แก่ Human Connection, Human Expression และ Human Ambition

Human Connection

โดยปกติเราจะรู้จัก Cello Suite ของ J.S.Bach เป็นเพลงสำหรับเดี่่ยว Cello

โดยจะมีการนำเสนอท่วงทำนองแนวประสานอื่นๆออกมาผ่านเสียงของ Cello สำหรับคนที่เริ่มเรียน Cello คงจะหนีไม่พ้นที่จะต้องเล่นเพลงเหล่านี้ และหลายคนคงจะรู้สึกว่าไม่อยากเล่น อยากเล่นเพลงจากยุคโรแมนติคที่มีความไพเราะมากกว่า จึงทำให้มองเพลงของ Bach เป็นเหมือนยาขม ถึงจะมีประโยชน์ แต่ก็ยากและต้องระวังเรื่องของ Intonation ตลอดเวลา

 

จึงทำให้เกิดโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้คนกลับมาสนใจและรักในเพลงของ Bach เพราะจริงๆแล้วถึงจะเป็นเพลงที่อยู่ในยุคบาโรคแต่มีเสียงประสานที่ใหม่และยังทันสมัยอยู่ มีนักดนตรีหลายคนที่นำ Cello Suite No.2 บทนี้มาเรียบเรียงใหม่ ในครั้งนี้ขอยกตัวอย่างงานของ Leopold Godowsky ที่นำบทเพลงนี้มาเรียบเรียงใหม่สำหรับเปียโนและ Tilman Hoppstock ที่นำมาเรียบเรียงใหม่สำหรับกีตาร์ ผมได้พยายามนำมาขยายให้ออกมาในลักษณะของ Chamber Music เพื่อนำเสนอดพลงนี้ออกมาให้เกิดสีสันที่แปลกใหม่ สามารถเล่นกับคนอื่นได้ เพื่อให้คนหลายๆคนจะไม่รู้สึกว่าเป็นยาขมอีกต่อไป

 

สุดท้ายนี้การที่นำเพลงสำหรับการเล่นเดี่ยวมาขยายให้เล่นได้เป็นกลุ่ม เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในเสียงดนตรีของกันและกัน กรอบของการอยู่คนเดียวเริ่มเลือนลางลง กลับถูกแทนที่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคนหลายๆคน นี่จะเป็นจุดเล็กๆที่จะแสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม จึงเป็นที่มาของ "Human in Connection" 

fdfdfd.jpg
Untitled.jpg

ตัวอย่างงานของ Hoppstock และ Godowsky

Human Expression

หนัง.png

หลายๆครั้งการศึกษาเรื่องราวของเพลงแต่ละเพลง เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจ และสามารถเห็นภาพของสังคมและช่วงชีวิตของผู้แต่งว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้เราสามารถที่จะตีความให้เห็นภาพเพื่อที่จะถ่ายทอดเพลงออกมาให้สมบูรณ์แบบ เหมือนกับเพลง Sonata in D minor บทนี้ของ Shostakovich ที่มีท่วงทำนองที่อ่อนหวาน เศร้าโศก และรุนแรงสลับไปสลับมาอย่างน่าสนใจ เนื่องจากในปีเดียวกัน ก่อนที่เพลงนี้จะถูกแสดงรอบปฐมทัศน์ เขาได้มีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น ทำให้ต้องเลิกลากับภรรยาไป และกลับมาแต่งงานกับภรรยาใหม่อีกครั้งเนื่องจากเธอพึ่งรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ 

เรื่องราวเหล่านี้โดยปกติจะถูกเขียนไว้ในสูจิบัตรเท่านั้น ถ้าผู้ใดอ่านก็จะมีจินตนาการไปกับเพลงที่นักดนตรีเล่นอยู่ในคอนเสิร์ต ผมจึงอยากที่จะให้ผู้ฟังทุกคนได้มีจินตนาการและเข้าใจถึง "Expression" ที่ผู้แต่งใส่ลงไปในบทเพลง จึงจะทำหนังสั้นประกอบกับเพลงโดยมีเคร้าโครงเรื่องจริงมาจากเหตุการณ์ของ Shostakovich

Human Ambition

Ambition หรือความทะเยอทะยาน เป็นคำที่อธิบายถึงคนที่มีความฝันและมีความพยายามที่จะทำให้บรรลุความฝันที่ตั้งไว้นั้นให้ได้ ผมใช้คำนี้ในการเล่าเรื่องราวของ Camille Saint-Seans เขาเป็นคนที่มีความพยายามในการนำเสนอบทเพลงของผู้ประพันธ์ชาวฝรั่งเศสซึ่งก็คือตัวเขาเองและเพื่อนๆ ผ่านการจัดตั้งสมาคมขึ้นมา เพื่อวัตถุประสงค์ 2 อย่างคือ นำเสนอผลงานของผู้ประพันธ์ร่วมชาติ และลดบทบาทของดนตรีจากเยอรมันที่ได้รับความนิยมอยู่ในฝรั่งเศสในขณะนั้นลง นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจตรงที่ว่าตัวของ Saint-Seans เองเป็นคนที่ได้รับการศึกษาดนตรีมาจากครูที่เป็นลูกศิษย์ของ Mendelsohn เติบโตและเรียนรู้ดนตรีมากับผลงานของผู้ประพันธ์ชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Handel, Bach, Mozart และ Beethoven ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นคนที่มาจากชาติที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นหลัก อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขามีความคิดที่จะหักล้างสิ่งที่เขาเรียนรู้และเชื่อถือมาตั้งแต่เด็ก ความทะเยอทะยานของเขาเมื่อ 100 ปีที่แล้วจะส่งผลอย่างไรต่อดนตรีฝรั่งเศสในเวลาถัดมา อยากเชิญชวนผู้ฟังทุกคนมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันในตอน "Human Ambition"

ต้องสู้.png
bottom of page